วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

โครงการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย

สองสามวันนี้รู้สึกว่าสุขภาพไม่ต่อยจะดี โดยเฉพาะปัญหาเรื่องใต ก็เลยลองค้นหาในเน็ทว่าพอจะมีวิธีบำรุงไตและรักษาสุขภาพร่างกายยังไงบ้างก็ไปเจอเข้ากับเว็บหนึ่งซึ่งน่าสนใจ และอยากจะแบ่งปั่นให้เพื่อนๆได้อ่านกันบ้าง เพื่อเป็นความรู้และบางที่อาจจะเป็นคำตอบของหลายๆคนที่กำลังหาวิธีดูแลสุขภาพ ยังไงก็ลองอ่าน บทความต่อไปนี้ละกันนะครับ
โครงการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
หากท่านเป็นแผลในปาก สิวขึ้นบนใบหน้าหรือท้องผูก... ก็อาจแสดงว่า สารพิษในร่างกายสูงเกินควรแล้ว แล้วท่านจะใช้วิธีการขจัดสารพิษอย่างไร กินยา ล้างท้องหรือทำการผ่าตัด? ความจริง ในร่างกายคนมีระบบขจัดสารพิษที่สูมบูรณ์อยู่แล้ว ขอแต่ให้เราใช้ระบบดังกล่าวนี้ด้วยวิธีที่ถูกต้องเท่านั้น ก็จะสามารถขจัดสารพิษออกจากร่างกายอย่างได้ผลดี อวัยวะในร่างกายหลายส่วนมีสมรรถนะขจัดสารพิษในตัวเองอยู่แล้ว วันนี้ ดิฉันจะขอแนะนำอวัยวะส่วนสำคัญในร่างกาย ที่มีสมรรถนะขจัดสารพิษ
1.สมอง แม้ว่าสมองจะไม่ใช่อวัยวะที่จะขจัดสารพิษโดยตรงได้ก็ตาม แต่ปัจจัยทางใจจะส่งผลต่อการขจัดสารพิษของอวัยวะต่างๆในร่างกายได้ โดยเฉพาะแรงกดดันและความเครียด จะส่งผลให้ระบบขจัดสารพิษในร่างกายทำงานไม่เป็นปกติ วิธีแก้คือ ควรนอนหลับให้เพียงพอ และคลายความเครียด เพื่อลดแรงกดดันของสมองให้เบาลง
2.กระเพาะอาหาร สมรรถนะสำคัญของกระเพาะอาหารคือ ย่อยอาหารและฆ่าเชื้อต่างๆ ในอาหาร แต่บางที่ก็ช่วยขจัดสารพิษด้วย เช่นเมื่อรับประทานอาหารที่เสียแล้วหรือมีสารพิษ ก็จะทำให้เกิดอาการอาเจียนออกมาซึ่จะทำให้เป็นทางหนึ่งที่สามารถขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้ ดังนั้น เราจึงควรดูแลกระเพาะอาหารให้ดี ควรพยายามรับประทาน อาหารทุกมื้อตามปกติ อย่ากินอาหารที่เปรี้ยนหรือเผ็ดจนเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการระคายต่อกระเพาะอาหาร
3.ระบบน้ำเหลือง ระบบน้ำเหลืองเป็นระบบหมุนเวียนชุดที่สามในร่างกาย นอกจากระบบเส้นเลือดใหญ่ และระบบเส้นเลือดดำ ระบบน้ำเหลืองทำหน้าที่เก็บสารพิษในร่างกาย น้ำเหลืองที่ไหลหมุนเวียนทั่วร่างกายนั้น จะทำหน้าที่ส่งสารพิษเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง สารพิษจะผ่านการกรองจากต่อมน้ำเหลืองเหล่านี้แล้วเข้าสู่หลอดเลือด นำไปหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนปอด ผิวหนัง ตับ และไตเป็นต้น จนถูกขจัดออกจากร่างกาย ดังนั้น ระบบน้ำเหลืองจึงมีความสำคัญมาก เราควรอาบน้ำอุ่นทุกวัน แต่ละครั้งเป็นเวลาประมาณ10-15นาที เพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนของน้ำเหลือง ส่วนในหน้าหนาวนั้น หากสามารถแช่เท้าในน้ำอุ่นได้ทุกวัน ก็จะเป็นผลดีอีกด้วย
4.ดวงตา สำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ร้องไห้ง่ายนั้น จะสามารถขจัดสารพิษออกไปพร้อมกับน้ำตาได้ เพราะในน้ำตานั้น มีสารพิษจำนวนมาก ดังนั้น สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยร้องไห้นั้น จึงควรพยายามร้องไห้ประมาณครั้งหรือสองครั้งต่อเดือนด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูละครที่ซาบซึ้งใจหรือการหั่นหัวหอมก็ได้ และอย่าลืมดื่มน้ำหลังการร้องไห้ด้วยนะคะ ดั่งรายการครั้งที่แล้วซึ่งดิฉันได้ให้ความสำคัญของการดื่มน้ำว่า มีความจำเป็นอย่างไร
5.ปอด ปอดเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่เก็บซึมซับสารพิษได้ง่าย เพราะแต่ละคนจะต้องสูดลมหายใจเอาอากาศเข้าสู่ร่างกายประมาณ1,000มิลลิเมตรต่อวัน ดังนั้น แบคทีเรีย เชื้อไวรัสและฝุ่นละอองที่ปลิวอยู่ในอากาศนั้น ก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่ปอดได้ วิธีการดูแลปอดและช่วยขจัดสารพิษจากปอดก็คือ ในสถานที่ที่มีอากาศสดชื่นหรือในช่วงหลังฝกตกนั้นควร หายใจลึกๆ หรือไอออกมาเองเพื่อช่วยให้ปอดขจัดสารพิษออกไป
6.ตับ ตับเป็นอวัยวะระบายสารพิษที่สำคัญที่สุดในร่างกาย ตับจะใช้โปรติน P450มาระบายสารพิษในอาหาร และแปรรูปอาหารให้เป็นสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่สารพิษบางชนิดอาจตกค้างอยู่ในส่วนตับต่อไปได้ วิธีบำรงตับและช่วยขจัดสารพิษคือ ออกกำลังกาย โดยเฉพาะการฝึกโยคะจะสามารถช่วยผ่อนคลายความเครียดในตับได้ เร่งการหมุนเวียนของเลือด และช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
7.ผิวหนัง ผิวหนังเป็นส่วนที่สามารถขจัดสารพิษออกจากร่างการขนาดใหญ่ที่สุดเพราะผิวหนังสามารถขจัดสารพิษที่อวัยวะส่วนอื่นขจัดได้ยากให้ออกจากร่างกายได้ด้วยเหงื่อ ดังนั้น เราจึงควรออกกำลังกาย เพื่อทำให้เหงื่อออกอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์
8.ไต ไตเป็นอวัยวะขจัดสารพิษที่สำคัญที่สุดอีกส่วนหนึ่งในร่างกาย เพราะไม่เพียงแต่จะสามารถกรองสารพิษในเลือดให้ออกจากร่างกายพร้อมกับปัสสะวะได้เท่านั้น หากยังมีบทบาทในการรักษาความสมดุลทางสัดส่วนของน้ำ และความสมดุลระหว่างโปแตสเซี่ยมกับโซเดียมอีกด้วย ในปัสสาวะมีสารพิษมาก หากไม่ระบายออกจากร่างกายได้อย่าง ทันท่วงที ก็จะถูกซึมเข้าสู่เลือดอีกครั้ง จนเป็นผลร้ายต่อสุขภาพ วิธีบำรุงไตคือ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้สารพิษในร่างกายไม่เข้มข้นเท่านั้น หากยังสามารถช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกายได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญมีข้อเสนอพิเศษให้ดื่มน้ำเปล่าหลังตื่นนอนในช่วงเช้า
9.ลำไส้ เศษอาหารที่ตกค้างอยู่ในลำไส้นั้น จะกลายเป็นอุจจาระ ซึ่งจะก่อให้เกิดสารพิษหลายอย่าง เช่นสารพิษอินโดล?INDOLE?หากไม่ได้ขับถ่ายออกมาอย่างทันท่วงที่ ก็จะเป็นผลร้ายต่อสุขภาพอย่างแน่นอน ดังนั้น เราจึงควรถ่ายอุจจาระทุกเช้าให้เป็นปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกาย ดูดซึมสารพิษเข้าสู่ร่างกายใหม่มากขึ้น และควรรับประทานอาหาร ที่มีใยมากเพื่อส่งเสริมการย่อยอาหาร และป้องกันท้องผูก น้ำเปล่า น้ำผึ้งหรือน้ำเลมอนร้อน ต่างก็เป็นน้ำดื่มที่เป็นผลดีต่อการ ขจัดสารพิษ นอกจากนั้น ผลไม้ ข้าวเจ้า ผักสด ข้าวโอ๊ด ปลาและอาหารประเภทเต้าหู้ ต่างก็เป็นอาหารที่ดีสำหรับการ ขจัดสารพิษ ส่วนส้ม กล้วย มะเขือเทศ ถั่วลิสง อาหารประเภทนม น้ำตาล กาแฟ ช๊อกโกเลต เป็นต้น เป็นอาหารที่ไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะบางอย่างมีกรดมากเกินไป และบางอย่างมีน้ำมันและ ตะกอนมากเกินไป จนทำให้ย่อยลำบาก หวังว่าบทความนี้จะนำประโยชน์แก่ท่านในการดูแลสุขภาพไม่มากก็น้อยค่ะ
อ้างอิงจาก http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?p=103007 30/10/2008

0 ความคิดเห็น: